Open Water

เริ่มต้นเรียนดำน้ำครั้งแรกในชีวิต

สอนดำน้ำลึกด้วยหลักสูตรสากลจาก NAUI และ SSI
จากสหรัฐอเมริกา สำหรับผู้ที่ต้องการเริ่มต้นเรียนดำน้ำเป็นครั้งแรกเพื่อรับ ใบอนุญาตดำน้ำสากลใช้ดำน้ำได้ทั่วโลก

เราสอน และดูแลนักเรียนใกล้ชิด  1:2
โดยทีมครูฝึกประสบการณ์สูง  สนุก และปลอดภัย


ในหลักสูตร OPEN WATER SCUBA DIVER ของ NAUI ค่าเรียนท่านละ 7,500 บาท
ในหลักสูตร OPEN WATER DIVER ของ SSI ค่าเรียนท่านละ 8,500 บาท 

✅ รวม ค่าเรือออกสอบภาคทะเล 2วัน (ที่แสมสาร เรือ The Shark)
✅ รวม ค่าบัตรดำน้ำสากลแบบออนไลน์ (Digital e-Card)
✅ รวม อุปกรณ์ดำน้ำคุณภาพสูง / จัดให้ยืมใช้ตลอดหลักสูตรแล้ว
✅ รวม ค่าตำราเรียน และ สมุดบันทึกทางการดำน้ำ LogBook
✅ รวม ค่า e-Learning และ e-Logbook บนแอป SSI และ NAUI (ในกรณีที่เลือก) 
✅ รวม ภาคปฏิบัติในสระเกลือส่วนตัว-ปรับอุณหภูมิ ไม่จำกัดจำนวนครั้ง

❌ ไม่รวม ค่าเดินทาง และที่พักในวันออกสอบภาคทะเล 

 ไม่รวม ค่าประกันภัยดำน้ำลึกตามกฏหมาย ชำระที่เรือในวันออกสอบภาคทะเล 250 ฿
 ไม่รวม ค่าธรรมเนียมดำน้ำลึกในเขตพื้นที่หมู่เกาะแสมสาร 100 ฿   
 

ทั้งนี้ชมรมฯ กำหนดให้ผู้เรียนชำระค่าใช้จ่าย
ส่วนแรก 3,500 NAUI / 4,500 SSI ในวันที่มาเรียนภาคทฤษฎีกับภาคปฏิบัติในสระ
และชำระส่วนที่เหลืออีก 4,000 บาท ในวันที่ออกสอบภาคทะเล
โดยชมรมฯ จะไม่รับมัดจำ หรือรับชำระล่วงหน้าใดๆ ในวันที่ท่านโทรมาจอง

 

ตัวอย่าง รายละเอียดการเรียนการสอน

OPEN WATER SCUBA DIVER (NAUI) (SSI)
แบ่งการเรียนออกเป็น 3 ส่วน ดังนี้

1.  ภาควิชาการ  (เรียนที่ กรุงเทพฯ) ครอบคลุมเนื้อหาทั่วไปความปลอดภัยของผู้ดำน้ำ เช่น

    - ความรู้ทางด้าน วิทยาศาสตร์ หลักการควบคุมแรงกดดัน และการปรับสภาพใต้น้ำ
    - ความรู้ทางด้าน อุปกรณ์ดำน้ำในระบบ เครื่องช่วยหายใจใต้น้ำแบบวงจรเปิด
    - ความรู้ทางด้าน สมุทรศาสตร์ และการปรับตัวเข้ากับโลกใต้น้ำ
    - การคำนวณเครื่องมือวัดประกอบการดำน้ำ และการวางแผนความลึกในการดำน้ำ

2.  ภาคปฏิบัติในสระว่ายน้ำ (เรียนที่ กรุงเทพฯ  สระเกลือส่วนตัวปรับอุณหภูมิในร่ม ลึก 4.2เมตร)

    - ความรู้ในการใช้เครื่องช่วยหายใจใต้น้ำแบบ วงจรเปิด (SCUBA)
    - แบบฝึกหัดในการช่วยเหลือตนเองในภาวะฉุกเฉินรูปแบบต่างๆ (เช่น กรณีอากาศหมดใต้น้ำ)
    - แบบฝึกหัดการดำน้ำในสภาวะปกติ

 

3. ภาคปฏิบัติการดำน้ำจริงในทะเล จำนวน 4 ครั้ง/Dive ไม่นับรวม Skin Diving
(ออกเรือที่ ม.แสมสาร อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี)

 

 

 

     ทำไมเราจึงนำนักเรียนออกสอบภาคทะเลที่สัตหีบ ?  ที่ซึ่งหลายท่านเข้าใจว่ากระแสน้ำไหลแรง เป็นปัญหาในการฝึก  แต่ไม่ใช่กับเรา เนื่องจากความชำนาญและคุ้นเคยพื้นที่ เกาะแก่ง และอ่าวต่างๆ กับประสบการณ์มากกว่า25ปีที่ผ่านมา  บ้านของราชนาวีไทยแห่งนี้ จึงเหมาะกับการฝึกดำน้ำอย่างยิ่ง แวดล้อมอยู่ในหมู่บ้านประมงอันเก่าแก่ ที่ซึ่งทะเลเรียบสงบ กระแสน้ำไหลดี จึงพัดพาถ่ายเทตะกอนได้เร็ว ทำให้น้ำทะเลที่นี้ใสกว่า และมีสัตว์ทะเลมาอาศัยมากมาย เป็นพื้นที่ควบคุมดูแลพิเศษของกองทัพเรือ ทะเลแห่งนี้จึงสงบ และคงความเป็นธรรมชาติไว้ได้ อย่างไม่น่าเชื่อ

  

  

 

คำถามที่พบบ่อย

ทำไมต้องเรียนดำน้ำ ในสระเกลือ(ทะเล)ปรับอุณหภูมิ ?

     สระระบบเกลือ(สปา) ถือเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของผู้ที่ชื่นชอบกีฬาทางน้ำ   สระในระบบนี้จะไม่ส่งผลเสียต่อร่างกาย เหมือนกับการว่ายน้ำ หรือดำน้ำในสระคลอรีนทั่วไป   เนื่องจาก สระระบบเกลือ ใช้การบำบัดน้ำให้สะอาดด้วย  เกลือ หรือ โซเดียมคลอไรด์  ซึ่งมีคุณสมบัติในการฆ่าเชื้อโรค และแบคทีเรียที่ดี และมีความปลอดภัยต่อร่างกาย มากกว่าคลอรีน  สระในระบบนี้ยังเสริมประสิทธิภาพการกรองน้ำด้วยระบบ "ผ้ากรองแรงดัน"  ซึ่งสามารถดักจับฝุ่นละอองได้ละเอียดกว่า  น้ำในสระเกลือ จึงมีความใสสะอาดมาก คล้ายน้ำทะเล โดยไม่ต้องพึ่งสารเคมี


( สระเกลือส่วนตัวในร่ม ลึก 4เมตร+ ของเรา )

ส่วนความเข้นข้นของเกลือที่ใช้ในสระนั้น ก็จะไม่เค็มมากเหมือนกับน้ำทะเลจริงๆ ที่อาจทำให้แสบเคืองตา
และผิวหนังได้ครับ  เมื่อเราลืมตาในสระเกลือ หรือเผลอสำลักน้ำเข้าไป จะไม่ทำให้แสบ และระคายเคืองเลย
เนื่องจากน้ำในสระเกลือ มีความเข้มข้นใกล้เคียงกับ พลาสมา(น้ำเลือด) นอกจากนั้นเรายังปรับอุณหภูมิน้ำในสระ ให้คงที่ อยู่ที่ 31องศาเซลเซียส ตลอดทั้งปี (มีผลอย่างยิ่งต่อการเรียนดำน้ำในช่วงฤดูหนาว) ซึ่งอุณหภูมิดังกล่าวเหมาะสมสำหรับนักเรียนที่จะต้องแช่อยู่ในน้ำเป็นเวลานาน


ดังนั้นจึงถือเป็นโอกาสที่ดี ที่จะลองหันมาฝึกดำน้ำในสระน้ำเกลือปรับอุณหภูมิของเรา
เพื่อหลีกเลี่ยงสารระคายเคือง และสารตกค้างจากคลอรีนครับ ซึ่งสารเหล่านี้ส่งผลต่อผิวหนัง
เส้นผม กระดูกฟัน  และดวงตา ของผู้เรียนดำน้ำ ที่จะต้องฝึกฝนปฏิบัติทักษะต่างๆในน้ำอยู่เป็นเวลานาน

จากการเปรียบเทียบ สระว่ายน้ำทั้ง  3  ระบบ (ที่ทั่วโลกมีใช้กันอยู่ 1.ระบบโอโซน 2.ระบบคลอรีน 3.ระบบเกลือ)
ปรากฏว่าระบบบำบัดน้ำในสระว่ายน้ำที่ดีที่สุดในโลกขณะนี้ คือ ระบบน้ำเกลือ โดยประเทศออสเตรเลียซึ่งเป็นประเทศที่มีสระว่ายน้ำมากที่สุดในโลก ใช้ระบบเกลือมากกว่า  90 %  ของสระว่ายน้ำทั้งหมดครับ


และ คุณสมบัติทั่วไปของผู้ที่จะเรียนดำน้ำ ?

    อายุไม่ต่ำกว่า15 ปี (นับถึงวันที่เริ่มเรียน)
    มีสุขภาพแข็งแรง ไม่ติดยาเสพติดให้โทษร้ายแรง และไม่เป็นโรคติดต่อร้ายแรง หรือ โรคที่เป็นอุปสรรคต้องห้ามต่อการเรียนดำน้ำ และการทำกิจกรรมดำน้ำลึกแบบ Scuba อันประกอบด้วย โรคหอบหืด โรคลมชัก โรคลมบ้าหมู โรคเรื้อน วัณโรคระยะอันตราย โรคเท้าช้าง โรคพิษสุราเรื้อรัง โรคสังคมรังเกียจต่างๆ หรือ โรคอื่นใดอันจะส่งผลต่อการเรียนดำน้ำ (กรุณาปรึกษาแพทย์ และ ผู้สอนดำน้ำ เนื่องจากบางโรค ถ้ามีใบรับรองจากแพทย์ ก็สามารถเรียนได้)

ว่ายน้ำไม่เป็นเรียนได้ไหม   ?


    คำตอบก็คือเรียนได้ แต่ ถ้าว่ายน้ำเป็นคุณก็จะมีความมั่นใจมากกว่า
    ในมาตรฐานการเรียนดำน้ำ คุณจะต้องผ่านการทดสอบการว่ายน้ำระยะทาง 200 เมตร อย่างต่อเนื่อง ไม่มีเครื่องช่วย ไม่จำกัดเวลา ไม่จำกัดท่า   หรือ ระยะทาง 300 เมตร ด้วยการใช้หน้ากาก ท่อหายใจ และเท้ากบ
    ดังนั้นควรว่ายน้ำเป็นในระดับที่พอช่วยเหลือตัวเองได้ เพราะการว่ายน้ำเป็นมีประโยชน์หลายประการ ไม่ใช่เพียงเพื่อการดำน้ำเท่านั้น


ไม่มีเพื่อนเรียนทำอย่างไรดี   ?

    หากเป็นคนที่มนุษย์สัมพันธ์ไม่ร้ายจนเกินไปนัก เรียนคนเดียวก็ได้ไม่มีปัญหา หลายท่านเข้าใจผิดว่าต้องหาเพื่อนมาเรียนด้วยกัน อย่างน้อย2คน ที่จริงเราเรียนดำน้ำ ในระบบสากลซึ่งหมายความว่าเมื่อเรียนจบแล้ว เราจะสามารถดำน้ำกับใครก็ได้ ไม่ใช่เฉพาะกับเพื่อนเราที่เรียนมาด้วยกันเท่านั้น และเมื่อคุณเรียนดำน้ำ คุณก็จะได้เพื่อนใหม่มากมาย ต่างอาชีพ ต่างเพศ ต่างอายุ อีกเยอะเลย มีโอกาสได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์เรื่องต่างๆอีกมาก
    คุณอาจจะได้พบกับคนที่มีความสนใจในกิจกรรมที่คล้ายๆกัน ชอบดำน้ำเหมือนๆกัน ท่องเที่ยวออกแนวลุยๆ ภูเขา น้ำตก รักป่า รักทะเล รักธรรมชาติ เป็นนักอนุรักษ์ร่วมกัน
    มีนักดำน้ำจำนวนมากเรียนดำน้ำคนเดียว แล้วก็มีอีกจำนวนมากที่ได้เพื่อนดีๆ จากการดำน้ำ บางคนได้พบเนื้อคู่จากการดำน้ำเลยก็มี

มีปัญหาเรื่องสายตาเรียนได้ไหม   ?

    สายตาสั้น สายตายาว ไม่ได้เป็นปัญหาสำหรับการดำน้ำเลย แก้ปัญหานี้ได้ง่ายคือ
    ถ้าคุณสายตาสั้นไม่มาก สัก 100-200 แทบไม่ต้องใช้อะไรช่วย เพราะเมื่ออยู่ใต้น้ำเราจะมองเห็นสิ่งที่อยู่ในน้ำใหญ่ขึ้นกว่าปกติอยู่ประมาณ 25% เช่น ปลายาว 5 เมตร คุณก็จะเห็นเป็น 6 เมตร ซึ่งเป็นเรื่องปกติของมุมมองใต้น้ำ   ที่ช่วยให้คุณมองเห็นได้ชัดขึ้นมาบ้าง
    แต่ถ้าคุณสายตาสั้นมาก คุณก็ยังสามารถใส่ contact lens ลงดำน้ำได้ แต่ต้องระมัดระวังเรื่องน้ำเข้าตาสักหน่อย หากน้ำเข้าหหน้ากากเวลาเคลียน้ำออก ให้หลับตาทำก็ได้
    ถ้าอยากปลอดภัยกว่านั้น มีหน้ากากดำน้ำที่สามารถเปลี่ยน lens เป็น lens สายตาได้สบายๆ และเมื่อคุณมาเรียนดำน้ำกับเรา ให้สอบถามขอคำแนะนำจากครูผู้สอนได้เลย   และ   ที่ดีไปกว่านั้น   ที่นี่   เรามีหน้ากากดำน้ำแบบเปลี่ยนlensสายตาไว้แล้ว  ให้ยืมใช้ฟรีๆด้วย
    ส่วนสายตายาว ยิ่งไม่เป็นปัญหา เพราะคุณสามารถมองเห็นวัตถุที่อยู่ไกลออกไป ชัดเจนอยู่แล้ว

มีโรคประจำตัว-อายุมาก เรียนได้ไหม   ?

    ถ้าเป็นโรคประเภทรุ่นแรง เช่นโรคหัวใจ หอบหืด ความดันโลหิตสูง-ต่ำมากๆ คงต้องไปปรึกษาแพทย์ก่อนว่าจะดำน้ำได้หรือไม่(ให้แพทย์ประเมินความรุ่นแรงของโรค) มีโรคบางโรคที่แพทย์จะไม่แนะนำให้ดำน้ำอย่างแน่นอน แต่   บางโรคถ้ามีใบรับรองแพทย์มาก็สามารถเรียนได้
    อายุไม่ใช่อุปสรรค ถ้ามั่นใจว่าร่ายกายคุณแข็งแรงดีตามวัย อายุก็ไม่ใช่ปัญหาครับ ปัจจุบันอุปกรณ์ดำน้ำ ได้พัฒนาให้เกิดความปลอดภัย และง่ายต่อผู้ใช้งานมากขึ้นกว่าแต่ก่อนมาก จึงช่วยผ่อนแรงเราไปได้เยอะ

เป็นคนเมารถ-เมาเรือง่าย เรียนได้ไหม   ?

    ถ้าคุณเมาแบบพองาม คือเมาแบบไม่มากมายนัก กินยาแล้วดีขึ้น ก็เรียนได้ไม่มีปัญหา
    เพราะคุณสามารถป้องกันด้วยการกินยาแก้เมา หาซื้อได้ตามรร้านขายยาทั่วไป
    แต่ถ้าคุณเมาง่าย เมามาก ขนาดคลื่นสูงเพียงเล็กน้อย ก็เมาแล้ว ที่จริงก็ยังเรียนได้ไม่รู้คุณจะสนุกหรือเปล่านะอันนี้ตัดสินใจเอง

อ้วน…(น้ำหนักมาก)..เรียนได้ไหม   และต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง   ?

    ถ้าไม่ได้อ้วนมากขนาดที่จะเป็นอันตราย ก็สามารถเรียนได้
    อ้วนแบบที่จะเป็นอันตรายเช่น เป็นโรคอะไรบางอย่าง แบบนี้ต้องไปปรึกษาแพทย์ดูก่อน
    เห็นคนน้ำหนักมากเรียนดำน้ำเยอะเลย ไม่มีปัญหาครับ
    สำหรับการเตรียมตัวโดยทั่วไป ควรออกกำลังกายก่อนหน้าเข้ารับการฝึก เพื่อให้ร่างกายอยู่ตัว จะได้ไม่เหนื่อย
    พักผ่อนให้เพียงพอ เพราะกิจกรรมนี้ ต้องใช้ร่างกายอยู่บ้าง
    ก่อนมาเรียน งดเหล้าได้จะดีมาก แม้จะออกพรรษาแล้วก็ตาม

ต้องซื้ออุปกรณ์ดำน้ำอะไรบ้าง   ?

    อย่าซื้ออะไรทั้งนั้น   เราเตรียมให้คุณหมดทุกอย่างแล้ว ตั้งแต่เริ่มเรียน-จนจบได้รับบัตรดำน้ำสากล
    พอเรียนเสร็จแล้ว ก็แนะนำว่า   อย่าพึ่งซื้อ เพราะเรายังเป็นมือใหม่อยู่ 1. ยังไม่รู้ว่าเราจะชอบดำน้ำจริงๆไหม จะดำน้ำไปนานขนาดไหน 2. เรายังไม่รู้ว่ามีอุปกรณ์ยี่ห้ออะไร ให้เราเลือกบ้าง ข้อดี-ข้อเสียต่างๆ และอุปกรณ์ยี่ห้อไหนที่น่าจะเหมาะกับรูปร่าง-ขนาดของตัวเรา และเงินในกระเป๋า จึงยังไม่ควรซื้ออะไรทั้งนั้น  เช่าเขาไปก่อนดีกว่ามั้ย ราคาค่าเช่าก็ใช่ว่าจะแพงมากเฉลี่ย 300-400บาท ครบชุด/วัน แต่ควรหาเช่าจากร้านที่ได้   มาตราฐานหน่อย ต่อเมื่อคิดว่าเราจะดำน้ำอย่างจริงจังแล้ว หรือมีโอกาสได้ดำน้ำบ่อยๆ จึงค่อยตัดสินใจซื้อ โดยปรึกษาผู้มีประสบการณ์หลายๆ คนก็ดี
    ถ้าจะซื้อจริงๆ ในเบื้องต้นควรซื้อ basic set อันประกอบด้วย mask, fins, snorkel ก่อน เพราะอุปกรณ์เหล่านี้มีไว้ก็ดี หากคุณไม่ดำน้ำลึก คุณก็ยังเอาไปดำน้ำตื้นเล่นได้ fins นี่ควรเลือกซื้อเป็นอันดับสุดท้ายเหมือนกัน เพราะช่วงต้นๆ เราอาจจะยังไม่รู้ว่าเราชอบ fins แบบไหน (เช่น แบบ full foot หรือ open heel แบบเต็ม หรือ แบบแยกเรียกว่า split fins)
    แล้วค่อยตามด้วย wet suit มีไว้ ได้ขนาดที่พอดีตัวก็จะดีมาก อย่าลืมว่า ต้องลองใส่ดูจริงๆเลยก่อนซื้อ หลายคนพลาดเพราะแค่เอามาเทียบกับไหล่ แล้วซื้อเลยสุดท้าย ไม่พอดีตัว
    ส่วน bcd และ regulator ขอแนะนำว่าให้ซื้อเป็นรายการสุดท้าย เพราะมีราคาสูง ศึกษาเปรียบเทียบให้ดีก่อน
    เมื่อมีทุกอย่างข้างต้นครบแล้ว และคิดว่าชอบหรือหลงรักการดำน้ำเข้าแล้ว ค่อยซื้อ dive computer สักอัน
    เมื่อเราอยู่ในกลุ่มเพื่อนๆนักดำน้ำ ให้สอบถามข้อมูลหรืออาจจะขอยืมอุปกรณ์บางชิ้นที่ได้เล็งๆไว้มาทดลองใช้ดูก่อนตัดสินใจซื้อ จะได้ไม่พลาด


ท่านที่สนใจสามารถสอบถามและลงชื่อสำรองที่นั่ง ตามรอบ "ตารางสอน" โดยไม่มีค่าใช้จ่าย

หมายเหตุ : เปิดอบรมเดือนละ 2-3 รอบ รอบละประมาณ 8 ท่าน ต่อครูฝึก 4-5 ท่าน โดยไม่จำกัดเวลาเรียน